ลงใต้เที่ยวทะเลกระบี่กันดีกว่า Krabi lively town lovely people "เมืองกระบี่น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก" คำขวัญของจังหวัดกระบี่ที่อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความน่าอยู่ของเมืองนี้ ด้วยข้อความที่อ่านแล้วจำได้อย่างรวดเร็ว แค่ทบทวนไม่กี่รอบก็จำได้ขึ้นใจทีเดียว การได้ไปเยือนกระบี่ครั้งนี้แม้จะใช้เวลาแค่ 3 - 4 วัน แต่เราก็ซึมซับได้ถึงบรรยากาศของชายทะเลฝั่งตะวันตกของท้องทะเลอันดามันทะลุทะลวงทุกอณูขุมขน มาถึงวันแรกก็เริ่มมองหาที่เที่ยวที่จะกลายเป็นจุดพักผ่อนในใจเรา อย่างเช่น หาดอ่าวนางก่อนเป็นอันดับแรก เดินดุ่มๆเข้าไปจองทัวร์กับร้านทัวร์ใจดีอย่างกระบี่ออนทัวร์ เขาแนะนำให้ไปทริป 4 เกาะ ซึ่งในโปรแกรมทัวร์เราจะได้ไปทัวร์ที่ เกาะไก่ ทะเลแหวก เกาะปอดะ และ หาดพระนาง
เกาะไก่ เป็นชื่อที่คนเรือซึ่งเป็นชาวท้องถิ่นใช้เรียกเกาะใหญ่อันดับสองซึ่งนับถัดจากเกาะปอดะ ตรงท้ายเกาะจะมีแท่งหรือเสาหินลักษณะคล้ายไก่หันหน้าไปทางทิศใต้ของเกาะโดดเด่นเป็นสง่า บางคนอาจเห็นเป็นไก่งวงก็ได้ พี่คนขับเรือบอกเราว่า เกาะนี้สมัยก่อนมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า เกาะด้ามขวาน ซึ่งเราคิดว่า ชื่อเกาะไก่นี้แหล่ะ เหมาะสมแล้ว แต่ก็เน๊อะ จินตนาการคนเรามันก็แตกต่างกัน เราจะเรียกเกาะนี้ว่าอะไรเกาะอะไร มันก็สวยแบบของมันวันยังค่ำ เมื่อพี่คนเรือจอดเรือให้เราไปเล่นน้ำที่เกาะไก่ เราก็โดดลงน้ำทันที ต๊กกะใจ ทำไมน้ำลึกจัง พี่คนเรือบอกว่า วันนี้น้ำใสมาก แต่ต้องระวังหน่อยเพราะน้ำดูตื้น แต่จริงๆแล้วลึกน่าดู แนะนำนะค่ะสำหรับคนว่ายน้ำไม่แข็ง ขอให้สวมเสื้อชูชีพดีกว่า ถ้ากระแสน้ำพัดเราไป เราก็ยังมีชูชีพคอยพยุงเราอยู่ อย่าประมาทนะค่ะ
ดำน้ำดูปะการังเพลินๆพักนึง เห็นคนไทยอีกกลุ่มนึงเฮเสียงดันลั่น เราก็เงยหน้าไปดู เห็นเค้าเอาขนมปังมาล่อปลาเสือให้มากินแล้วถ่ายรูปกันใหญ่ เราคิดว่าเป็นวิธีการเรียกปลาที่ไม่ถูกสักเท่าไหร่ การให้ขนมปังมัน จะไปเปลี่ยนนิสัยของปลา ต่อไปมันอาจจะโดดขึ้นบนเรือมาขโมยอาหารกล่องเราไปกินก็ได้ ม่ายยยยยยช่ายยยยย มันจะติดนิสัยรออาหารคนโดยไม่ค่อยสนใจอาหารที่มันสามารถหาได้เองตามธรรมชาติ ก็เหมือนเราไปให้อาหารปลาสวายที่แม่น้ำหน้าวัดในกรุงเทพไงคะ เราไม่ต้องเรียกปลาแบบนั้นหรอกค่ะ แค่แบมือตบๆบนผิวน้ำเบา ปลาก็มาให้เราถ่ายรูปแล้ว
น้ำทะเลที่เกาะไก่วันนี้ใสมาก ปลานกแก้วหลายสี รวมทั้งปลากะตูนร์เราก็สามารถหาเจอได้ที่นี่ค่ะ วันนี้พิเศษมาก เจอเต่าด้วย พี่คนเรือบอกว่า เมื่อก่อนเต่าที่นี่มีเต่าเยอะ เป็นเต่ากระ มีกระดองที่สวยแวววาว แต่ตอนนี้มีไม่กี่ตัว เพราะสมัยก่อนโดนล่าเอากระดองมาทำแหวนหรือกำไลราคาแพง เห็นมั๊ยค่ะ มีแต่เราเองนั่นแหล่ะที่ไปทำลายธรรมชาติโดยตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์มาเยอะนักหนา ถึงคราวเราต้องให้อะไรกับธรรมชาติบ้างนะคะ
บริเวณเกาะไก่ ยังมีเกาะอีก 3 เกาะ ก็คือเกาะปอดะ ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ เกาะทับแล้วก็เกาะหม้อ เป็นเกาะเล็กๆอยู่ระหว่างเกาะไก่และเกาะปอดะ เป็นเกาะเล็กแต่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เพราะที่เกาะเล็กๆนี่คือเวทีแห่งปรากฎการณ์ธรรมชาติ ชนิด Uncut เอ๊ยยยยยย Unseen Thailand เลยทีเดียว นั่นก็คือปรากฏการณ์ ทะเลแหวก นั่นเอง เมื่อน้ำลด ทั้งสามเกาะคือ เกาะไก่ เกาะปอดะ และเกาะหม้อจะถูกเชื่อมต่อเข้าหากัน กลายเป็นหาดทรายที่ขาวสะอาดทอดยาว ความสวยงามนี้เองทำให้ทั้งสี่เกาะของทะเลกระบี่แห่งนี้นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทะเลแหวก ชนิด Unseen ที่หลายๆคนพูดถึงและหาโอกาสมาเยี่ยมเยือนที่นี่ให้จงได้ น้ำลดแล้ววู้ๆๆๆๆๆ เอาล่ะลุยทะเลแหวกกันเล๊ยยย
หันซ้ายทีขวาที คนเยอะเหมือนกัน มะเป็นไร เค้าก็มาเสพธรรมชาติเหมือนกันกับเรา ว่าแล้วเราก็เดินจากเกาะไก่ไปทะเลแหวกทันที ตอนที่เราเดินไปเนี่ยน้ำยังลดลงไม่สุดนะคะ น้ำสูงประมาณขาอ่อน แต่ก็เดินได้สะดวก เห็นแนวหาดทรายเป็นแนวยาวไปสุดเกาะหม้อ โอ้โห ทำมายมันไกลจัง ไม่เป็นไรเดินไปเรื่อยๆ ขอบอกนะคะในวันฟ้าใสของกระบี่แบบนี้ แดดแรงมากๆครีมกันแดดต้องพกมานะคะม่ายงั้นตัวจะดำและก็ลอกเป็นแผ่นๆจนเราแอ๊บแบ๊วไม่ออกได้นะคะ
และแล้วเราก็เดินมาถึงเกาะหม้อ เย่ๆ ทิวทัศน์ที่นี่สวยมากค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าเมืองไทยเราจะมีเกาะที่สวยงามได้ขนาดนี้ อิจฉาคนกระบี่มากๆที่เกิดมาเป็นเจ้าของผืนดินแห่งนี้... เดินชมสถานที่สักพักเราก็ออกไปดำน้ำดูปลาอีก ที่นี่มีปะการังน้ำตื้นอยู่ใกล้ๆโดยที่เราไม่ต้องว่ายน้ำออกไปไกลๆ ปลาเยอะมากค่ะ ขอบอก ฟังหลายคนพูดว่า ที่นี่ไม่เห็นสวยเท่าเกาะช้างเลย เราก็เคยไปเกาะช้างนะ ยอมรับค่ะว่าสวยมาก แต่ก็ต้องนั่งเรือไปไกลเช่นกัน แต่นี่เรานั่งเรือมาจากฝั่งแค่ 30 นาที ก็เจอสวรรค์แล้ว แล้วเราจะไม่ตกหลุมรักหนุ่มหน้ามนต์นามว่า กระบี่ คนนี้ได้ไงค่ะ
เล่นน้ำดูปะการังได้สักพัก พี่คนเรือก็มาตามเราให้ไปว่ายน้ำเล่นต่อที่เกาะปอดะ นั่งเรือประมาณ 7 - 8 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ก้าวแรกที่ลงไปยังเกาะ แม่เจ้าๆๆ ทรายขาวละเอียดนุ่มมากๆ อยากจะกลิ้งบนหาดสัก 70 ตลบค่ะ แต่ทำไม่ได้ หม่อมแม่บอกมันไม่งาม รอให้คนกลับหมดก่อนค่อยทำ ฮิ๊วววววววว
บนหาดแม้จะมีขยะอยู่บ้าง แต่ก็เป็นธรรมดาค่ะเรื่องขยะ ทำใจกับประเทศไทย สอบถามพี่คนเรือเรื่องขยะ ได้ใจความว่า ที่เกาะปอดะมีบังกะโลซึ่งเป็นของเจ้าของเกาะ ตอนเช้าๆจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บขยะที่ชายหาดของทุกวันเพื่อเตรียมชายหาดให้สะอาดรอนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาชมความงามของที่นี่ ขยะที่เห็นเป็นขยะช่วงกลางวันที่ลมพัดเข้ามา... ฟังแล้วก็ใจชื้นค่ะ และเข้าใจว่าคนดูแลหาดคงต้องตื่นเช้ามากๆแน่ เพื่อมาเตรียมชายหาดให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา พี่น้องคร๊าบบบบบบ.... เราต้องช่วยกันดูแลท้องทะเลของเรานะคะ ขยะที่เราสร้างขึ้นขณะมาเที่ยวที่นี่ ห้ามทิ้งเกลื่อนกลาดนะคะ ให้ทิ้งในที่ๆเค้าจัดให้ หรือถ้าหาที่ทิ้งไม่ได้ ยืดอก...พกใส่ถุงมาทิ้งบนฝั่งดีกว่าค่ะ อย่าคิดว่าต้องเกรงใจคนดูแลหาด แต่ให้เกรงต่อธรรมชาติ ในอนาคตถ้าขยะมากขึ้น เราจะเอาอะไรมาเล่าขานบอกต่อถึงความสวยงามของท้องทะเลไทยให้ลูกหลานเหลนโหลนเราล่ะคะ แนวคิดอันนี้เอาไปปรับใช้ได้ทุกสถานที่ค่ะ กิ๊วๆ
แหน่ะบ่นแป๊บนึง พี่คนเรือเรียกอีกแระ บอกว่าจะไป อ่าวพระนาง ซึ่งเป็นหาดสุดท้ายของทริปนี้ และแล้วหัวเรือโทงก็แบนหัวหันหน้ามุ่งสู่ฝั่ง จุดหมายปลายทางคือ อ่าวพระนาง นั่นเอง
ใช้เวลาเดินทางจากเกาะปอดะมาถึงอ่าวพระนางประมาณ 15 - 20 นาที เร็วๆมาก พี่คนเรือเค้าบิดค่ะ ไม่ใช่ปวดท้องนะคะ เค้าบิดคันเร่งเครื่องเรือจริงๆ ตรงเครื่องเรือจะมีมือจับยื่นออกมาสำหรับถือท้ายเรือ ตรงมือจับจะมีเชือกผูกติดกับคันเร่งปั๊มดีเซล มือพี่คนเรือก็จับด้ามถือพร้อมกับกุมเชือกแล้วก็บิดเครื่องไปพร้อมๆกัน เจ๋งมั๊ยค่ะ คนไทยเราถ้าทำอะไร ไม่แพ้ชาติอื่นหรอกค่ะ อิอิ เกี่ยวมะ
แท่นแท๊นนนนนน ถึงแล่วววว หาดพระนาง หรือ อ่าวพระนาง อุแม่เจ้าๆๆๆๆ อีกครั้ง ทำไมเราถึงได้รู้สึกเหมือนคนรูอะไรแบบนี้ ไม่คิดบ้างว่า ประเทศไทยเราจะมีหาดอะไรสวยแปลกตาแบบนี้ คุณผู้อ่านเคยเห็นมั๊ยค่ะ ถ้ำกับหาดทรายสวยๆ มาอยู่ด้วยกัน มันคลิกค่ะ มันคลิกจริงๆ ถึงแม้หาดจะไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนเกาะที่ไปมาแล้ววันนี้ แต่ด้วยความแปลกตาของถ้ำและภูเขาหินปูนที่ขนานกับหาดทรายแห่งนี้มันช่างโดดเด่นสวยงามจริงๆ
เดินสำรวจไปมาหน้าหาดสักพัก เราก็เดินอ้อมทะลุไปหลังถ้ำ ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงน้ำลงสุดแล้วตามที่พี่คนเรือบอก ด้านหลังนี้จะมีถ้ำเล็กๆให้มุดไปมานิดหน่อย แล้วก็ออกมาเป็นหาดเล็กๆ สวยมากค่ะขอบอก วิวดีมากคิดว่าถ้ามีเวลา จะพายเรือคายัคจากอ่าวนางมาเก็บภาพถ่ายมุมมองตรงนี้จากทะเลค่ะ
"น้องๆ น้องคนสวยน่ะ กลับกันได้แล้วนะ เดี๋ยวน้ำลงมาก พี่เอาเรือไปเก็บที่ท่าไม่ทัน" เสี่ยงพี่คนเรือ ว. มาแต่ไกล อ่ะ กลับก็กลับ แหม่ ยังไมหนำใจเลย ว่าจะขอนอนที่นี่สักคืน แต่ไม่ได้เอาเครื่องนอนอะไรมา พอดีกำลังเดินผ่าน รีสอร์ทสุดหรูที่ ก็เลยอยากจะลองเช่าห้องคืนละ 75000.- นอนเล่นสักคืนดู แหม่ เสียดายไม่ได้พกกระเป๋าตังค์มา เพราะหม่อมแม่ห้ามไว้ค่ะ กลัวเราทำกระเป๋าตังค์ตกทะเลหายไป ยิ่งเซ่อๆอยู่ด้วย
จบค่ะ จบ เด๋วจะมาเล่าทริปวันต่อมาให้อ่านกันแบบมันส์ๆอีก ขอบคุณกระบี่ออนทัวร์ สำหรับทริปดีๆ แถมยังลดให้อีก ทั้งๆที่ไม่ได้ขอสักหน่อย ขอบคุณ Krabisky ขอบคุณพี่คนเรือ ชื่อ "จำยาก" วันหลังจะมาให้พี่บิดเรือไปถึงเกาะพีพีเลยค่ะ บายยยยยยค่ะ
Latest Stories
Categories:
กระบี่,
กระบี่ ออน ทัวร์,
เกาะปอดะ,
ทะเลแหวก,
อ่าวพระนาง