Latest Stories



จากการพบรอยพระพุทธบาท ที่เมืองสระบุรี พ.ศ. 2145สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
จึงเสด็จไปนมัสการรอยพระพุทธบาทโดยทางชลมารค และสถลมารค
และได้โปรดเกล้าให้สร้างตำหนักเป็นที่ประทับระหว่างทาง และสันนิษฐานว่าได้โปรดฯ
ให้สร้างตำหนักขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ที่ตำบลริดวัดเทพจันทร์ ใกล้แม่น้ำป่าสัก ซึ่งสันนิษฐานว่า
ตำหนักนี้คงถูกแปลงเป็นวิหารในวัดใหม่ประชุมพล อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระมหากษัตริย์ที่ครองกรุงศรีอยุธยา ต่อจากนั้นมาทุกพระองค์จะต้องเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธบาท
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดฯให้สร้างตำหนัก รวมทั้งศาลาที่พักของพระองค์และราษฎร์
ระหว่างทางหลายแห่ง ปัจจุบันพังทลายไปแล้ว และถูกสร้างทับเป็นศาลาพระจันทร์ลอย ประดิษฐานธรรมจักรศิลา
ภายในบริเวณเดียวกันกับวัดนครหลวง
ตามหลักฐานที่ปรากฎในพงศาวดาร ในปี พ.ศ. 2147 สมเด็จพระเจ้าปราสาททองโปรดฯ
ให้ช่างไปถ่ายแบบปราสาทเมืองพระนครหลวง ในประเทศกัมพูชา มาสร้างใกล้วัดเทพพระจันทร์ อำเภอนครหลวง
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากการดำเนินงานทางโบราณคดี ได้พบว่า วัตถุประสงค์แรกเริ่มของการสร้างปราสาทนครหลวง
คือ เพื่อให้เป็นศาสนสถานในพระพุทธศาสนา
มิใช่ที่ประทับระหว่างทางในการเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาทดังที่เข้าใจกันมาแต่เดิมสำหรับตำหนักที่ประทับพั
กร้อนนั้น คือ ตำหนักนครหลวง การก่อสร้างปราสาทนครหลวงยังไม่แล้วเสร็จในสมัยพระเจ้าปราสาททอง
และถูกทิ้ร้างอยู่เป็นระยะเวลายาวนาน โดยไม่มีกษัตริย์องค์ใดสร้างต่อแต่อย่างใด จนใน พ.ศ. 2356
ตาปะขาวปิ่น ได้สร้างวัดนครหลวงขึ้นมาโดยรวมเอาปราสาทนครหลวงเข้าไว้ในเขตวัดด้วย
และได้สร้างพระบาทสี่รอยไว้บนลานชั้นที่ 3 ของปราสาทนครหลวง ต่อมาใน
สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประมาณ พ.ศ. 2446 พระครูวิหารกิจจานุการ (ปลื้ม)
เมื่อครั้งยังเป็นพระปลัดอยู่นั้น ได้รวบรวมกำลังศรัทธาประชาชน
และพระบรมศานุวงศ์มาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนครหลวง ในส่วนของปราสาทนครหลวงนั้น บนลานชั้นที่ 3
ปฏิสังขรณ์พระพุทธรูป มณฑป พระบาทสี่รอยมณฎประจำมุม ประจำด้าน
วิหารคดเก้าอี้ศิลปะแบบจีนขึ้นแทนสิ่งก่อสร้างเดิม ซึ่งสร้างในสมัยพระเจ้าปราสาททอง



มณฑปพระบาทสี่รอย สร้างขึ้นบนลานชั้นบนของปราสาทนครหลวง
ตรงตำแหน่งที่เคยพบซากปรางค์ประธานเป็นมณฑปทรงจตุรมุข ขนาด 8 คูณ 19 เมตร ก่ออิฐถือปูน
มีประตูทางเข้ามุขละ 2 ประตู ที่หน้ามุขด้านตะวันตก จารึกปีที่ปฏิสังขรณ์มณฑปหลังนี้ เมื่อ พ.ศ.
2446 ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบาทสี่รอย ที่คูหามุขแต่ละมุขมีพระพุทธรูปตั้งอยู่มุขละ 2 - 4 องค์
เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นซึ่งแกนในของพระองค์จะเป็นหอนทราย
ชั้นส่วนของพระพุทธรูปที่สร้างมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
พระยาทสี่รอยที่ประดิษฐานอยู่ในมณฑปจตุรมุขนี้
มีลักษณะเป็นพระบาทศิลารอยใหญ่ซ้อนกันสี่รอยลึกลงไปในเนื้อหิน ตามคตินิยมทางพระพุทธศาสนาลัทธิมหายาน
นิยมการสลักหินเป็นพุทธบูชา เปรียบรอยพระบาทกับอดีตพุทธ 4 องค์คือรอยที่หนึ่ง หมายถึง พระพุทธกกุสนธ์
รอยที่สอง หมายถึง พระพุทธโกนาคมน์ รอยที่สาม หมายถึง พระพุทธกัสสปและรอยที่สี่ หมายถึง พระพุทธโคดม




ณ สถานที่แห่งนี้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันก็คือ..ศิลาพระจันทร์ลอย
ศิลาพระจันทร์ลอย เป็นหินขนาดใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร หนาประมาณ 6 นิ้ว
ตามตำนานกล่าวว่าหินพระจันทร์ลอยนั้นลอยน้ำมาแล้วมาหยุดตรงหน้าวัดแห่งนี้



ศาลาพระจันทร์ลอย ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทนครหลวงประมาณ 90 เมตร
จากการดำเนินการขุดแต่งเมื่อปีพ.ศ.2534 พบแนวพื้นปูอิฐ
ทำให้ทราบว่าศาลาพระจันทร์ลอยสร้างคร่อมทับสิ่งก่อสร้างเก่าหลังหนึ่งและจากหลักฐานเอกสารสันนิษฐานว่า
ซากสิ่งก่อสร้างนั้น คือ ตำหนักนครหลวง
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าปราสาททองโปรดฯให้สร้างขึ้นเพื่อใช้ประทับร้อนระหว่างทางเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปน
มัสการพระพุทธบาทสี่รอย จังหวัดสระบุรี
แต่ก่อนมาจากสภาพซากตำหนักที่พระบาทสมเด็จพระจุมจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในระยะทางเสด็จประ
พาสมณฑลอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2421
ทำให้สันนิษฐานว่าตำหนักนครหลวงคงจะมีลักษณะเป็นตำหนักยาวอย่างพระที่นั่งจันทรพิศาลในพระนารายณ์ราชนิเวศ
น์ จังหวัดลพบุรี

ศาลาพระจันทร์ลอยที่เห็นกันในปัจจุบันเป็นอาคารจตุรมุข
เป็นของที่ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระปลัด (ปลื้ม)
ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูวิหารกิจจานุการอาคารทรงจตุรมุขดังกล่าวเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน
มีบันไดทางขึ้นเตี้ยภายในประดิษฐานพระจันทร์ลอยแผ่นศิลาที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พระจันทร์ลอย
ซึ่งประดิษฐานอยู่ในมณฑปจตุรมุขนี้เดิมอยู่ที่วัดเทพพระจันทร์(ปัจจุบันชื่อวัดเทพพระจันทร์ลอย)
ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่พระวิหารกิจจานุการ
(ปลื้ม)ได้นำมาประดิษฐานไว้ที่อาคารหลังนี้พระจันทร์ลอยนี้เป็นแผ่นหินแกรนิตรูปวงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 2
เมตรหนา 6นิ้ว ด้านหน้าสลักเป็นรูปเจดีย์ 2 องค์ พระพุทธรูป 3 องค์
เจดีย์องค์หนึ่งเป็นรอยสลักอยู่เดิม
แต่เจดีย์อีกองค์หนึ่งและพระพุทธรูปสามองค์มีปูนปั้นพอกให้นูนเด่นออกมามากกว่าหน้าศิลาคงจะมีผู้ทำขึ้นภา
ยหลังด้านใต้มีรอยสลักลายตรงกลางมีรูปต่าง ๆ ที่ปรากฎชัดเป็นรูปปลา 2
ตัวเหมือนสัญลักษณ์ราศรีมีนต่อจากลายมาสลักเป็นลวดโค้งเหมือนรอยต้นพระบาทลายเหล่านี้ลบเลือนมากสันนิษฐาน
ได้ว่าแผ่นศิลาพระจันทร์ลอยนี้คือ ธรรมจักร ซึ่งยังทำไม่เสร็จ



เที่ยวกระบี่ ทัวร์กระบี่
Read More ...

Latest Stories



รายละเอียด
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) สำนักงานกระบี่ ร่วมกับ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พร้อมใจกันจัดงาน  “วันรักอ่าวลึก ครั้งที่ 5 ประจำปี 2554” เพื่อสืบสานเอกลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอย่างรู้คุณค่า



ททท.สำนักงานกระบี่ อำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ ร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐและเอกชนพร้อมใจกันจัดงาน    “รักอ่าวลึกครั้งที่ 5 ประจำปี 2554” ในระหว่างวันที่ 3 – 5 ธันวาคม 2554 ณ สนามที่ว่าการอำเภออ่าวลึก อ. อ่าวลึก     จ. กระบี่  เพื่อแสดงมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น และอาศัยแนวคิดการดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง มานำเสนอ ผ่านกิจกรรมทางวัฒนธรรมย้อนยุคจากชาวอำเภออ่าวลึกทุกตำบล ที่ต่างพร้อมใจกันมาร่วมจัดงานในครั้งนี้

สำหรับปีนี้จะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม  เพื่อเป็นการเฉลิม  84  พรรษา  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รูปแบบการจัดงานยังคงแนวคิดย้อนยุคเช่นเดิม  นอกจากนั้นยังมีการนำวัฒนธรรมพื้นบ้าน  และวิถีชีวิตของชาวบ้าน  ศิลปะการแสดงพื้นบ้านซึ่งเป็นไฮไลท์ในของแต่ละขนำของตำบลต่าง ๆ  พบกับ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ทัวร์กระบี่ นิทรรศการแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พิพิธภัณฑ์ชุมชน ภาพถ่ายเก่า นิทรรศการการท่องเที่ยว นิทรรศการเรื่องปาล์มน้ำมันและยางพารา พืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัดกระบี่ ชมการสาธิตการแกะสลักผักและผลไม้ การร้อยมาลัย ถนนคนเดิน ตลาดย้อนยุค แฟชั่นย้อนยุค เศรษฐกิจสร้างสรรค์จากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น
ททท.สำนักงานกระบี่และชาวอำเภออ่าวลึก  จึงขอเชิญชวน  นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ  และเพื่อให้งานมีสีสัน  มีเอกลักษณ์  จึงขอเชิญชวนทุกท่านแต่งกายย้อนยุค  เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศและกิจกรรมของงาน  รับรองว่างานสนุก     มีสีสัน  ย้อนยุค  มีเอกลักษณ์ และแถมได้ความรู้  เกิดความรักในถิ่นฐานบ้านเกิดอีกด้วย
***********************************
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ 292 ถ. มหาราช  อ. เมือง  จ. กระบี่ 81000 โทรศัพท์  0 7562 2163, โทรสาร   0 7562 2164
ที่ว่าการอำเภออ่าวลึก โทรศัพท์ 075-681 892, 075-681 361

เหมาะสำหรับ: ทุกเพศทุกวัย
ระดับงาน : ท้องถิ่น
Read More ...

Latest Stories

เที่ยวกระบี่ ทัวร์กระบี่



เหมือนไม่นานมานี้เราเพิ่งเจอกัน มันบังเอิญหรือเปล่าไม่แน่ใจ ถ้าเขาเป็นเพื่อนต้องบอกว่าพอรู้ใจกัน ระยะสี่ปี นอกจากรู้จักหน้าค่าตา ยังพอทำให้รู้จักมิตรภาพของเพื่อนมากขึ้น การหวนกลับมาเยี่ยมในเวลาไม่นานนักได้เห็นถึงความเดือดเนื้อร้อนใจที่เพื่อนพอจะช่วยเพื่อน...
 
“กระบี่” ถ้าเป็นชายคงผิวเข้มอย่างชาวเล ปล่อยตัวเองในอ้อมกอดอันดามัน มีผู้คนมากมายตักตวงประโยชน์จากตัวเขา ในความเมินเฉยไม่ใช่ไม่รู้ แต่ยากที่จะหักหาญใครง่าย ๆ แม้บางอย่างไม่อาจกลับคืน แต่เราก็หวนกลับมาเจอกันได้อีก
 
ถ้าเทียบกันด้วยสายตาเขาเป็นคนมีดีในตัว ด้วยเอกลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวกระบี่หลากหลายและงดงาม แม้นใครอาจมองแข็งกระด้าง เราเดินทางมาอีกครั้งและหยุดยืนมองทะเลสีครามเบื้องหน้าตัดกับแพขนานยนต์ที่กำลังสำลักควัน เคลื่อนตัวเข้าใกล้ฝั่งในวันแดดเริงแรงตามแบบชายทะเล แพขนานยนต์หอบเอารถทั้งใหญ่เล็กจากเกาะลันตา มาเทียบ ท่าเรือบ้านหัวหิน
 
ด้วยเกาะลันตาห่างตัวกระบี่แค่ 50 กิโลเมตร ทำให้อาณาเขตแห่งความเจริญคืบคลานไปแฝงตัวอยู่รอบเกาะ เพราะหลังจากเราหย่อนก้นลงบนม้านั่งแพขนานยนต์แล้วมองออกไปยังพื้นที่เวิ้งว้างของชายทะเล เป็นอีกครั้งที่เราไม่รู้สึกสะทกสะท้านต่อคลื่นที่แฝงตัวใต้ท้องน้ำ ถึงใคร ๆ จะบอกว่าหน้านี้ไม่ควรเที่ยวทะเลด้วยกลัวมรสุม แต่สิบปากว่าไม่เท่ามาชมของจริง
 
ไม่ทันที่คนฟุ้งซ่านอย่างเราจะคิดอะไรต่อ รถก็มาจอดที่ร้านอาหารริมหาดเกาะลันตาใหญ่ ยอดคลื่นกำลังโถมตัวซัดหาดทราย มันคล้ายมาตราวัดอย่างหนึ่งของร้านค้าในเกาะที่จำต้องปิดตัวเพื่อรอฤดูท่องเที่ยวครั้งต่อไปจะแง้มประตูร้านค้าให้เปิดอีกครั้ง
 
การทิ้งร้านแล้วขึ้นฝั่งไปหาอย่างอื่นทำ ใครก็ทำได้ถ้าเขามีที่ทางในเมืองหรือเป็นแรงงานหนุ่มสาวสมบุกสมบัน แต่ไม่ใช่คนเฒ่าผิวเกรียมแดด ซึ่งเปิดร้านนวดเล็ก ๆ ริมหาด แกยิ้มเห็นฟันห่างเมื่อเห็นเราจด ๆ จ้อง ๆ และรับทักทายจากคนในคณะตามขนบมุสลิม
 
หลานตัวน้อยของแกเล่นสนุกอยู่บนเบาะนวด ผู้เฒ่าบอกอย่างไม่อายว่าปีนี้แย่จังเลยคุณ ร้านค้าในลันตาพากันปิดเร็วกว่าทุกปี ลำพังจะขึ้นไปทำงานบนฝั่ง บ้านและลูกหลานก็ยังอยู่ที่นี่ ใบหน้าที่มีตอหนวดขึ้นหร็อมแหร็มแสดงความเดือดเนื้อร้อนใจคุกรุ่นผ่านแววตาเศร้า
 
ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงเป็นอีกผลดีของนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งแสวงหาพื้นที่พักผ่อนเงียบสงบ ขณะเดียวกัน การปีนผา คือการฝึกสมาธิการเดินถ้ำแคบ ๆ ไม่มีแสงไฟตามรายทางให้เดินก็เป็นอีกบททดสอบของรากฐานแห่งหัวจิตหัวใจให้เข้มแข็ง
 
ด้วยความที่ ถ้ำเขาไม้แก้ว ยังคงความดิบ ซึ่งคนที่เข้าไปเที่ยวควรเตรียมตัวโดยใส่รองเท้าหุ้มส้นไม่หลุดง่าย สวมใส่เสื้อผ้าทะมัดทะแมง และไม่ควรนำสัมภาระเข้าไปมากเพราะบางช่วงเป็นช่องแคบ ๆ ที่ต้องคลานแนบชิดกับพื้นถ้ำ ที่สำคัญควรมีไฟฉายคนละหนึ่งอัน ส่วนผู้ที่ไม่ชอบพื้นที่แคบ ๆ ถ้าอยากไปคงต้องทำใจให้เป็นปกติ
 
สำหรับการเดินทางเข้าถ้ำเขาไม้แก้ว เนื่องด้วยอยู่ใน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ทำให้ทางเดินเข้าไปเต็มไปด้วยไม้ใหญ่และโขดหินที่มากมายไปด้วยตะไคร่ พลันถึงปากถ้ำก็เจอด้านที่ผู้สูงอายุหลายคนถึงถอดใจ เพราะในช่องหินแคบ ๆ ต้องไต่บันไดลงไปยังโถงด้านล่าง พอเดินลึกเข้าไปทุกอย่างก็ดูจะมืดสนิท เหลือเพียงทางเดินแคบ ๆ ให้พอเดินเรียงเดี่ยว ช่วงแรกพื้นหินที่เดินยังไม่เฉอะแฉะกับน้ำที่ไหลซึมมาก แต่พอเข้าไปลึกเริ่มสร้างปัญหาให้ต้องตั้งหลักดี ๆ ก่อนก้าว
 
นอกจากต้องปีนบันไดในบางช่วง หลายช่องทางยังต้องไต่สะพานไม้ไผ่      เล็ก ๆ แต่คุ้มสำหรับคนที่ชอบเที่ยวถ้ำ เพราะมีโถงเต็มไปด้วยผนังที่ยามส่องไฟจะเป็นประกายระยิบระยับ แต่ดูจะโหดสุดคือช่วงสุดท้ายก่อนทางออกเป็นช่องเล็กต้องนอนราบแล้วกระดึ๊บตัวไปข้างหน้า โดยต้องปลดสัมภาระทั้งหมดเสียก่อน เช่นเดียวกับคนหุ่นเจ้าเนื้อต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะฝ่าด่านนี้ไปได้ แต่ถือว่าคุ้มกับความพยายามและได้ออกกำลังจนเหงื่อโซมกันเป็นทิวแถว
 
 ปิดท้ายก่อนแสงสุดท้ายของวันบนจุดชมวิวที่จะเห็นทะเลกระทบโขดหินติดกับหย่อมหญ้าเล็ก ๆ ของร้านโน่น ที่เราสามารถสั่งน้ำมาดื่มให้ชื่นใจขณะลำแสงตะวันค่อย ๆ ลดระดับลงก่อนจมหายไปในท้องทะเล ทิ้งไว้เพียงความมืดและริ้วรอยการเดินทางตลอดวันนี้
 
ถึงคนมากหน้าหลายตาจะแวะเวียนมาหาเขาเพลาลง เพราะคาบเกี่ยวฤดูมรสุม แต่ในความครั่นคร้ามของคนที่กลัวคลื่น ยังมีรอยยิ้มของชนท้องถิ่นรอต้อนรับเสมอ ขอเพียงสายลมพัดหวนกลับมาท่องเที่ยวอีกครา.
รู้ไว้ก่อนไปเที่ยว
การเดินทาง จากตัวเมืองกระบี่ใช้ ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าสู่ จ.ตรัง ผ่าน อ.คลองท่อม ถึงหลัก กม. 64 จะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4260 ไปประมาณ 27 กม. จะถึงท่าเรือแพขนานยนต์บ้านหัวหิน โดยสารเรือ ท่าเรือเจ้าฟ้า ขึ้นเรือที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง รอบเรือขาไป มีด้วยกัน 2 รอบ คือ 10.00 น. กับ 13.30 น. ระยะทางประมาณ 50 กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ มาขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่าน
 
รอบเรือขากลับ มี 2 รอบเช่นกัน คือ 08.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารอีกคนละ 20 บาท เรือจะมีบริการในฤดูกาลท่องเที่ยว
 
ภูมิอากาศ เกาะลันตามีสภาพภูมิอากาศอยู่ในแถบป่าฝนเมืองร้อน จะมีช่วงลมมรสุมพัดผ่าน ปีละ 2 ครั้ง โดยจะเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกาะลันตา มีเพียง 2 ฤดูกาล คือ ฤดูฝน และฤดูร้อน
 
ฤดูกาลท่องเที่ยว ที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม และช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมามากที่สุด คือช่วงเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี อุณหภูมิอากาศของเกาะลันตาโดยทั่วไปจะอยู่ประมาณ 32-34 องศาเซลเซียสในเวลากลางวันและ 20-25 องศาเซลเซียสในเวลากลางคืน เฉลี่ยแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 28-30 องศาเซลเซียส
 
สิ่งของต้องเตรียม ควรเตรียมชุดที่แห้งง่าย และถุงกันน้ำ รองเท้าแตะสวมใส่สบาย.
ทัวร์กระบี่ เที่ยวกระบี่
Read More ...

Latest Stories


โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ขอเชิญทุกท่านร่วมต้อนรับ เซ็นทาราอันดาเทวีรีสอร์ทและสปา กระบี่ ภายใต้การบริหารงานของเซ็นทารา ด้วยราคาแนะนำสุดพิเศษ สำหรับห้องดีลักซ์การ์เด้นวิว เริ่มต้นเพียง 2,610 บาท ++ (รวมอาหารเช้า) ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2554 และเริ่มต้นเพียง 3,510 บาท ++ (รวมอาหารเช้า) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2554 ราคาดังกล่าวเป็นราคาต่อห้องต่อคืน สำหรับ 2 ท่าน ยังไม่รวมค่าภาษีและค่าบริการ และให้สิทธิ์ในการพักฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี (ไม่เกิน 2 คน) ที่พักร่วมห้องกับคุณพ่อคุณแม่

เซ็นทาราอันดาเทวีรีสอร์ทและสปา กระบี่ โรงแรมสร้างใหม่ภายใต้การบริหารงานของเซ็นทารา ตั้งอยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธาราเพียง 100 เมตร และยังอยู่ใจกลางเมืองของอ่าวนาง ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่เพียง 40 นาที ประกอบด้วยห้องพักแบบธรรมดาและห้องพักประเภทสวีทจำนวน 135 ห้อง ทุกห้องมี ระเบียงส่วนตัวอันกว้างขวางและได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม อาทิ ห้องพักแบบดีลักซ์การ์เด้นวิว ขนาดตั้งแต่ 36 จนถึง 40 ตารางเมตร จำนวน 72 ห้อง, ห้องพักแบบดีลักซ์พูลวิว ขนาด 42 ตารางเมตร จำนวน 50 ห้อง, ห้องพักแฟมิลี่สวีทพูลวิว ขนาด 83 ตารางเมตร 1 ห้อง, ห้องพักแบบดีลักซ์พูล แอคเซส ขนาด 46 ตารางเมตร จำนวน 11 ห้องและห้องฮันนีมูนสวีทพูลแอคเซส ที่ใหญ่ถึง 92 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพัก โทร. 0 2101 1234 ต่อ1 หรือ อีเมล์ reservations@chr.co.th หรือเว็บไซต์ http://www.centarahotelsresorts.com/package/CentaraAndaDheviIntroSale.asp
Read More ...

Latest Stories




ทดสอบบทความ
ททท.สำนักงานกระบี่ ขอเชิญชมการแข่งขันปีนหน้าผา “Krabi International Rock Climbing 2011” เสริมภาพลักษณ์จังหวัดกระบี่เป็น Rock Climbing Destination
จังหวัดกระบี่ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ททท. สำนักงานกระบี่ แลปีนผาะชม รมปีนหน้าผาไร่เล กำหนดจัดงาน “Krabi International Rock Climbing 2009” ระหว่าง วันที่ 17 – 19 เมษายน 2554 ณ หาดต้นไทร หาดไร่เล และเกาะปอดะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และ ประชาสัมพันธ์กิจกรรมการปีนผาของจังหวัดกระบี่ และส่งเสริมให้กิจกรรมการแข่งขันปีนหน้าผาเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางการท่อง เที่ยวประจำปีของจังหวัดกระบี่ รวมทั้งนำเสนอภาพลักษณ์จังหวัดกระบี่ เป็น Rock Climbing Destinationซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักปีนหน้าผาว่าหากนึกถึงการปีนผา ต้องไปปีนที่จังหวัดกระบี่ เนื่องจากมีหน้าผาที่สวยงามติดอันดับโลก มีธรรมชาติที่สวยงามและมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวครบครัน มีเส้นทางปีนผากว่า 600 เส้นทาง นักปีนผาสามารถเลือกปีนได้ตามระดับความยากง่ายและความท้าทายที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีลักษณะเด่น
คือเมื่อปีนขึ้นไปบนยอดเขา สามารถมองเห็นทัศนยีภาพอันสวยงามของจังหวัดกระบี่ เช่น ภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาคล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก รวมทั้งมองเห็นหมู่เกาะต่างๆ เช่น เกาะปอดะ เกาะทับ เกาะไก่ ฯลฯ โดยได้แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภทคือ
• Lead Climbing Marathon
• Deep Water Soloing


นอกจากกิจกรรมการแข่งขันปีนผาแล้ว ยังมีการจัดการแข่งขัน Thailand Bouldering Asia
Cup และการแข่งขันควงไฟ (Fire Contest)


ททท. คาดว่าหลังจากการจัดกิจกรรมปีนผานานาชาติครั้งนี้จะทำให้จังหวัดกระบี่เป็น ที่รู้จักแพร่หลายในระดับชาติและระดับสากลมากขึ้นรวมทั้งจะสามารถกระตุ้นการ ท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ในภาพรวมได้เป็นอย่างดี ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าวสามารถเข้าไปดูข้อมูลและสมัครได้ที่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ โทรศัพท์. 0 7562 3944 โทรสาร 0 7562 3955 www.krabi-tourism.org E-mail : krabi_tourism@hotmail.com การจัดการแข่งขันปีนผาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากสมาคมกีฬาปีน หน้าผาแห่งประเทศไทย ชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวต้นไทร และชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวไร่เล


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานกระบี่ โทรศัพท์ 0 - 7562 - 2163 โทรสาร 0 - 7562 - 2164 e-mail : tatkrabi@tat.or.th


ข้อมูล จาก ททท.


ห้องพักราคาพิเศษ ช่วง 16- 20 เมษายน 2552
package 3 คืน รวมอาหารเช้า 3000 บาท เท่านั้น...
ปกติราคา คืนละ 2450 บาท 
ดูรายละเอียดห้องพักได้ที่ www.krabiontours.com
Read More ...